เผยผิวเรียบเนียน สวยใส อย่างอ่อนโยน กับการกำจัดขนบนหน้าด้วยวิธีแว็กซ์

“ขนบนใบหน้า” หลายคนคงรู้ดีว่าการมีคนบนใบหน้านั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่หลายๆ คนคงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเหล่าขนบนหน้าเส้นเล็กๆ ทั้งหลาย สามารถก่อปัญหาผิวได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการเกิดของ “ไรขน” วันนี้เวอร์น่าจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “ไรขนบนใบหน้า” ที่เกิดจากการสะสมของขนบริเวณใบหน้าที่มากจนเกินไป และยังพาไปรู้จักกับวิธีกำจัดขนบนใบหน้าง่ายๆ อย่างการแว็กซ์อีกด้วย แต่ก่อนอื่นเรามารู้จักวงจรของขนกันแบบคร่าวๆ ก่อนดีกว่า

เรามารู้จักชนิดของเส้นขนกันก่อนดีกว่า

1.ขนละเอียด คือ เส้นขนที่มีความละเอียดอ่อน มีเซลล์เม็ดสีหรือ Melanin จำนวนน้อย ทำให้เส้นขนไม่มีสีหรือสีอ่อน ลักษณะของเส้นขนชนิดนี้จะเป็นเส้นขนาดเล็กและบางมาก ซึ่งจะหลุดออกไปในช่วงวัยทารกและจะงอกขึ้นมาใหม่เมื่อเราโตขึ้น

 2.ขนอ่อน จะพบที่บริเวณไรผม หน้า ลำคอ ลำตัวของผู้หญิง ซึ่งเส้นขนชนิดนี้จะมีสีอ่อน เนื่องจากมี Melanin อยู่จำนวนน้อย และเส้นขนชนิดนี้จะขึ้นก็ต่อเมื่อเส้นขนละเอียดนั้นหลุดร่วงไปแล้ว

 3.ขนชุดสุดท้าย เส้นขนชนิดนี้จะขึ้นมาแทนขนอ่อน เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เส้นขนชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นเส้นหนา มีสีเข้ม เนื่องจากมี Melanin อยู่จำนวนมาก จะเห็นได้ชัดบริเวณหนวดและใต้วงแขนค่ะ

girl, portrait, woman

ระยะของเส้นขน

ในการเจริญเติบโตของเส้นขนจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ระยะ ซึ่งจะเรียงจากระยะเติบโต ไปยังระยะเสื่อมสภาพ จนถึงระยะพักตัว ตามลำดับ แต่เมื่ออายุเราเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ระยะการเติบโตในแต่ละช่วง ช้าลงไปด้วย

 1.ระยะเติบโต หรือ Anagen Phase เป็นระยะที่เส้นขนมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ โดยโครงสร้างของเส้นขนจะสมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งแต่ละเส้นขน จะมีอายุ 2-3 ปี หากไม่มีปัจจัยอื่นมาทำให้เส้นขนหลุดร่วงไปเสียก่อน

 2.ระยะเสื่อมสภาพ หรือ Catagen Phase เป็นระยะที่ต่อเนื่องมาจากระยะเติบโต และเป็นระยะที่เส้นขนจะหยุดการเจริญเติบโต ใน 2-3 สัปดาห์ และพร้อมที่จะหลุดร่วงออกไปจากรูขุมขน

 3.เส้นขนในระยะพักตัว หรือ Telogen Phase เส้นขนจะหลุดออกมาจากโคนขน แล้ววนกลับไปที่ระยะเติบโต เป็นวงจรต่อเนื่อง โดยจะใช้เวลาในการหลุดร่วง ประมาน 3-4 เดือน

แต่หากใบหน้าของคุณเริ่มเกิดตุ่มแดงๆ ขึ้นตามบริเวณแก้ม คาง ดูแล้วเหมือนสิว แต่ใช้ยาแต้มสิวแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ยิ่งทายิ่งแดงยิ่งแสบ ขึ้นมานานเป็นเดือนแล้วไม่หายสักที คนไข้เห็นแล้วมักจะคิดว่าตัวเองเป็นสิว ส่วนใหญ่อาจเป็นสิวจริงๆ แต่บางครั้งเป็นการอักเสบที่รูขุมขนที่ไม่ใช่สิว

เชื่อว่าหลายท่านต้องเสียเงินรักษาเพราะหลงเข้าใจว่าใบหน้าของเรานั้นเป็นสิวแบบทั่วๆ ไป ที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย แต่แท้จริงแล้วอาจเกิดจากเจ้าตัวไร หรือตัวไรที่อยู่ตามเส้นขนบนในหน้า จากผลการวิจัยของ มหาวิทยาลัย Tulane ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าคนที่มีผมและขนเส้นบางจะมีตัวไรมากถึง 88% ไรเป็นสัตว์มี 8 ขา ขนาดสั้นกว่า 0.1- 0.4 มิลลิเมตร มี 2 สายพันธุ์ได้แก่ Demodexfolliculorum และ Demodex brevis 

Demodexfolliculorum จะอาศัยอยู่ที่รากผม รากขนต่างๆ แย่งกินสารอาหารททำให้ผมและขนขาดสารอาหาร ผมและขนจึงมีขนาดเล็กบางลง ขาดความมีชีวิตชีวา และอาจทำลายโครงสร้างของขน อาจทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ รูขุมขน

Demodex brevis  อาศัยอยู่ที่รากผมแย่งกินสารอาหารและไขมันที่ต่อมไขมัน โดยเฉพาะรอบๆ จมูก ขนตา และบริเวณใบหน้า ทำให้ต่อมไขมันอักเสบและติดเชื้อ เกิดเป็น สิว หรือ ผื่น 

การมีตัวไรทั้ง 2 ชนิด ย่อมก่อปัญหาทำลายสุขภาพผมและผิว มันอาศัยอยู่ในคนตลอดชีวิตของมัน มันผสมพันธุ์และแพร่พันธุ์เร็วมาก ตัวเมีย 1 ตัว วางไข่ได้ถึง 12 – 24 ใบ จากไข่มีการลอกคราบ จึงกลายเป็นตัวโต อัดกันอยู่ในรูขุมขน หากมีจำนวนมากอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดเกิดการติดเชื้อเกิดสิว หรือ ตุ่มอักเสบแดง ที่โคนผมได้ มันมีวงจรชีวิต 14 – 28 วัน ในกลางวันมันจะอยู่ในรูขุมขน กินอาหารที่รากผมในกลางคืน ตัวที่โตเต็มที่ จะออกมาบนหนังศีรษะ และหารูขุมขนใหม่ เพื่อวางไข่ การเคลื่อนที่ของมัน หากไประคายเคืองปลายประสาทบนหนังศีรษะ ก็อาจทำให้เกิดอาการ คัน ยิบๆ ได้

ที่ขาของมันซึ่งเป็นข้อต่อเล็กๆ ยังพบว่าเป็นที่หมักหมมของแบคทีเรีย ไวรัส และริคเก้ทเซีย (rickettsia) ฉะนั้นไม่ว่ามันจะอยู่ในรูขุมขนหรือเดินไปทางไหน ก็จะเปิดโอกาสให้มีการติดเชื้อเกิดเป็นสิวเม็ดเล็กๆ และที่สำคัญร่างกายเกิดการต่อต้านของเสียที่มันขับออกมา ทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ (sensitization) เลยทำให้แพ้เครื่องสำอาง หรือ สบู่ หรือแพ้แม้แต่เหงื่อของตัวเอง

นอกจากนั้นเนื่องจากที่ขาของมันมีเล็บที่แหลมคม สำหรับเกี่ยวจึงทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง และมีปฏิกิริยาโต้ตอบ โดยการสร้างผนังเซลผิวชั้นนอกขึ้นอย่างรวดเร็ว (perlifolation of epithelium) ทำให้ผนังเซลพองหนา และหลุดร่อนออกมาเร็วกว่าปกติ เกิดเป็น รังแค หรือสะเก็ด บนหนังศีรษะให้ จริงๆแล้วหากบนหนังศีรษะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ มันก็ชอบที่จะอยู่ในรูขุมขนมากกว่า แต่เมื่อมันอยู่กันในจำนวนมากๆ ก็ทำให้รูขุมขนถูกอุดตัน เกิดการอักเสบ จึงมักพบว่าเกิดเป็น สิว หรือตุ่มแดงๆ ที่ผิวหน้านั่นเอง

 ลักษณะของอาการหากมีตัวไรอยู่ที่เส้นขน

* เป็นเม็ดแดง บวม แสบๆ คันๆ มีหัวหนองขึ้นตามหน้าผาก แก้ม และคาง (ถ้าดูดีๆโดยละเอียดจะไม่เห็นเม็ดอุดตัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสิว)

* ประวัติเป็นมานาน ชอบเห่อเวลาร้อนๆ หรือไปนวดหน้า ขัดหน้า หรือทำหัตถการเลเซอร์บางชนิดที่มีความร้อนสะสมที่หน้า เม็ดแดงๆ พวกนี้ก็จะเห่อขึ้นอย่างรวดเร็ว

น้ำมันบำรุงผิวอเนกประสงค์

 สำหรับคนที่มีผิวหน้าอักเสบจากไรขน มักจะมีผิวที่แห้งลอกคัน และระคายเคือง นอกจากการรักษาไรขนโดยตรงแล้ว ควรต้องดูแลอย่าให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น โดยการล้างหน้าเบาๆ ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ เลี่ยงน้ำที่อุ่นจัด ใช้ตัวล้างหน้าที่อ่อนที่สุด (ยิ่งมีฟองมาก ใช้ปริมาณมากๆ จะยิ่งระคายเคือง) หลายๆคนคิดว่าการมีไรขนเป็นความสกปรก ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง (เช่นเดียวกับการคิดว่าสิวเป็นเพราะล้างหน้าไม่สะอาด)

หลังล้างหน้า ควรทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้น เลี่ยงครีมขาวใส ลดริ้วรอย งดใช้ตัวเช็ดเครื่องสำอาง โทนเนอร์ เพราะการเช็ดจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น สำหรับกันแดด สามารถทาได้โดยเลือกกันแดดที่เป็นสูตรกายภาพ (physical sunscreen) ไม่มี whitening ไม่กันน้ำเพื่อที่สามารถล้างออกได้ง่าย

นอกจากเรื่องไรขนแล้วอีก 1 สิ่งที่ขนใบหน้าเป็นศัตรูตัวฉกาจคือการแต่งหน้านั้นเอง เพราะใบหน้าจะทำให้รองพื้นนั้นมีความไม่เรียบเนียน ทำให้สาวๆ หลายคนแต่งหน้าได้ยากกว่าที่เคย ดังนั้นแล้วเมื่อรู้อย่างนี้เราควรจะหาวิธีกำจัดขนบนใบหน้าอย่างถูกต้อง แน่นอนที่สุดว่าวิธีที่เร็วและง่ายคงหนีไม่พ้นการแว็กซ์ร้อนหรือ Hard Wax เพราะสามารถช่วยกำจัดขนบนใบหน้าได้ไว

แว็กซ์ร้อนหรือ Hard Wax กำจัดขนได้เกลี้ยงเกลา
ช่วยทำให้ใบหน้าเนียนนุ่ม

แว๊กซ์ร้อน

Hard Wax หรือ แว็กซ์ร้อน เป็นหนึ่งในแว็กซ์ที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับบริเวณที่บอบบางของร่างกาย เช่นสายบิกินี่ ใต้วงแขน ริมฝีปากบนหรือคิ้ว นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังถือว่าสะดวกที่สุดเพราะว่าเราไม่ต้องทำเนื้อแว็กซ์เอง ลักษณะของ Hard Wax จะเป็นเม็ดหรือก้อนเล็กๆ นอกจากจะเป็นหนึ่งในวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ สามารถกำจัดขนได้อย่างถึงรากถึงโคน โอกาสเกิดขนขาด ขนคุดน้อยกว่า ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวช่วยกำจัดผิวหนังกำพร้า ทำให้ผิวใส เนียนนุ่ม โดยข้อดีอีกอย่างคือสามารถดึงออกได้ด้วยมือ โดยไม่ต้องใช้กระดาษหรือผ้าในการช่วยดึง

ส่วนการเลือกแว็กซ์นั้นควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก อย. ไม่ว่าจะเป็นแว็กซ์สูตร Premium Pearl แว็กซ์ที่ทำให้คุณได้รู้สึกถึงความพรีเมี่ยม และได้สัมผัสประสบการณ์ในการกำจัดขนสุดพิเศษ เพราะแว็กซ์สูตรนี้สามารถกำจัดขนทุกชนิดได้ถึง 99% ไม่ว่าจะเป็นเส้นหนาหรือเส้นบางในบริเวณกว้าง เช่น ขาและแขน ไม่ทิ้งรอยแดง และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหากใช้อย่างถูกต้อง เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

หรือสำหรับคนที่รักความสนุกสนานและอยากจะเริ่มผลัดเซลล์ผิวด้วยการแว็กซ์แล้วแหละก็ขอแนะนำแว็กซ์สูตร Soft Touch คาโมมายด์และโรส ที่จะมอบสีสันในการกำจัดขนของคุณ ให้คุณสนุกและเพลิดเพลินไปกับการแว็กซ์ เหมาะกับการกำจัดขนเส้นหนาในบริเวณที่แคบ เช่น ใต้รักแร้และบริเวณบิกีนี่ แห้งไว ใช้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มแว็กซ์เองที่บ้าน

แต่ในกรณีสำหรับขนบนใบหน้า เราขอแนะนำสูตร Premium Pearl เป็นพิเศษเพราะนอกจากจะป้องกันอาการผิวหนังอักเสบ ยังช่วยให้ใบหน้าของเรานั้นเรียบเนียน สดใส และพิเศษกว่านั้นด้วยส่วนผสมของ Rosehip Oil ทำให้ช่วยลดอาการอักเสบได้อีกทางนึง จึงเป็นสิ่งที่ลงตัวสุดๆ 

เพราะเส้นขนของผู้หญิงหลายๆคนก่อปัญหาได้ไม่เหมือนกัน บางคนมีขนบนริมฝีปากเยอะจนเหมือนมีหนวด บางคนขนคิ้วและหน้าผากหนาเกินไปจนแต่งหน้าไม่ติด เป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อย การแว็กซ์ขนจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวลงไปได้ และสำหรับผิวหน้าโดยรวมยังช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เรียบลื่น เมคอัพติดได้ดีขึ้น ไม่มีขนเส้นเล็กๆ มากวนใจอีกต่อไปค่ะ