FAQ

14 คำถามที่พบบ่อยในการแว็กซ์จากเวอร์น่า

1. แว็กซ์ Verna ทั้งหมดมีกี่สูตร ต่างกันอย่างไร

แว็กซ์ของเราเป็น Hard wax ที่ไม่ต้องใช้ผ้าในการดึง สามารถใช้ได้ทั่วร่างกาย แต่เพื่อประสิทธิภาพของการกำจัดขน เราจึงผลิตแว็กซ์ออกมาสองสูตร คือ

1.1 Soft touch สูตร Soft touch จะมีอยู่สองสีด้วยกัน นั่นก็คือ Chamomile (สีน้ำเงิน) และ Rose (สีชมพู) ซึ่งสูตรนี้จะเหมาะสำหรับการแว็กซ์บริเวณแคบของร่างกาย และขนเส้นหนา เช่น รักแร้ จุดซ่อนเร้น(บิกินี่,บราซิลเลี่ยน) หนวดเครา เป็นต้น โดยสูตรนี้จะต้องทาค่อนข้างหนา แห้งไว ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ในการแว็กซ์

1.2 Premium สูตร Premium จะมีแค่เพียงสีเดียว นั่นก็คือ Pearl (สีขาว) ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรที่อัพเกรดมาเพื่อกำจัดขนทุกชนิด ทาไม่ต้องหนาแต่สามารถกำจัดขนได้ถึง 99% ไม่ว่าจะเป็นเส้นหนาหรือเส้นบาง และสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะ แขน ขา ขนบนใบหน้า แผ่นหลัง หน้าท้อง รักแร้ แต่ควรมีความชำนาญก่อนแว็กซ์บริเวณจุดซ่อนเร้นเพราะเนื้อสัมผัสของสูตรนี้จะมีความหยืดหยุ่น เหนียวหนืด แห้งช้า ดังนั้นถ้าเทียบกันทั้งสองสูตรระหว่าง Soft touch และ Premium ในการแว็กซ์จุดซ่อนเร้น สูตรSoft touch จะใช้ง่ายมากกว่าจึงเหมาะสำหรับมือใหม่ในการแว็กซ์ แต่ถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วละก็

เราขอแนะนำสูตร Premium เพราะความยืดหยุ่นของเนื้อแว็กซ์จะทำให้ขนหลุดออกได้อย่างหมดจด แม้ขนเส้นบาง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือผู้เชี่ยวชาญในการแว็กซ์ ก็สามารถเลือกแว็กซ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานได้

 2. ในการแว็กซ์ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการแว็กซ์ได้แก่ 

2.1 ออยล์บำรุงผิว ก่อนการแว็กซ์ ให้เตรียมผิวด้วยการทาออยล์บำรุงผิว แล้วซับคราบมันส่วนเกินออกด้วยกระดาษทิชชู่ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นพร้อมต่อการแว็กซ์กำจัดขน 

2.2 หม้ออุ่นแว็กซ์ หากไม่มีจริงๆก็สามารถอุ่นในไมโครเวฟหรือนำไปอุ่นบนเตาแก็สได้(แบบเดียวกับที่ละลายช๊อคโกแลต) 

2.3 ไม้ปาดแว็กซ์ ใช้ในการตักแว็กซ์และนำแว็กซ์มาทาลงบนผิว เกลี่ยให้เรียบ และเมื่อแว็กซ์แห้งแล้ว ก็สามารถใช้ไม้ปาดแว็กซ์ในการสะกิดให้แว็กซ์หลุดออกได้ง่ายขึ้น

2.4 เม็ดแว็กซ์ ควรเลือกแว็กซ์แต่ละชนิดให้เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการแว็กซ์

โดยสามารถศึกษาแว็กซ์แต่ละประเภทได้จากหัวข้อ “แว็กซ์มีกี่สูตร ต่างกันอย่างไร

2.5 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อปลอบประโลมหลังการแว็กกซ์ หลังการแว็กซ์ผิวของเราควรได้รับการบำรุงอย่างถูกต้อง เพราะการแว็กซ์คล้ายกับการสครับที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว

3. ต้องการแว็กซ์ขนขา แขน หน้าท้อง ควรใช้แว็กซ์สูตรไหน 

ถ้าต้องการแว็กซ์ขนขา แขน หน้าท้องควรใช้สูตร Premium จะมีแค่เพียงสีเดียว นั่นก็คือ Pearl (สีขาว) ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรที่อัพเกรดมาเพื่อกำจัดขนทุกชนิด ทาไม่ต้องหนาแต่สามารถกำจัดขนได้ถึง 99% ไม่ว่าจะเป็นเส้นหนาหรือเส้นบาง และสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะ แขน ขา ขนบนใบหน้า แผ่นหลัง หน้าท้อง รักแร้ แต่ควรมีความชำนาญก่อนแว็กซ์บริเวณจุดซ่อนเร้นเพราะเนื้อสัมผัสของสูตรนี้จะมีความหยืดหยุ่น เหนียวหนืด แห้งช้า ดังนั้นถ้าเทียบกันทั้งสองสูตรระหว่าง Soft touch และ Premium ในการแว็กซ์จุดซ่อนเร้น สูตรSoft touch จะใช้ง่ายมากกว่าจึงเหมาะสำหรับมือใหม่ในการแว็กซ์ แต่ถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วละก็

เราขอแนะนำสูตร Premium เพราะความยืดหยุ่นของเนื้อแว็กซ์จะทำให้ขนหลุดออกได้อย่างหมดจด แม้ขนเส้นบาง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือผู้เชี่ยวชาญในการแว็กซ์ ก็สามารถเลือกแว็กซ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานได้

4. ต้องการแว็กซ์ขนรักแร้ บิกินี่ หนวดเครา ควรใช้แว็กซ์สูตรไหน 

ถ้าต้องการแว็กซ์ขนรักแร้ บิกินี่ หนวดเคราควรใช้สูตร Soft touch จะมีอยู่สองสีด้วยกัน นั่นก็คือ Chamomile (สีน้ำเงิน) และ Rose (สีชมพู) ซึ่งสูตรนี้จะเหมาะสำหรับการแว็กซ์บริเวณแคบของร่างกาย และขนเส้นหนา เช่น รักแร้ จุดซ่อนเร้น(บิกินี่,บราซิลเลี่ยน) หนวดเครา เป็นต้น โดยสูตรนี้จะต้องทาค่อนข้างหนา แห้งไว ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ในการแว็กซ์

5. ขอทราบวิธีการแว็กซ์

5.1 การเตรียมผิว ต้องไม่ให้มีเหงื่อ หรือสิ่งสกปรกติดอยู่บนผิว และต้องไม่มีบาดแผลหรือการอักเสบใดบนผิว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุในการเกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้นได้  หากมีบาดแผลควรทิ้งไว้บาดแผลหายสนิทแล้วจึงค่อยทำการแว็กซ์ขน ขอแนะนำ น้ำมันบำรุงผิวอเนกประสงค์จาก Verna เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นเป็นประจำ และช่วยลดการระคายเคืองจากการแว็กซ์ เนื่องจากผิวหนังที่แห้งเกินไป ควรใช้น้ำมันบำรุงก่อนทำการแว็กซ์ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือหากทาก่อนเริ่มทำการแว็กซ์ทันที ให้ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดน้ำมันที่เหลือออกจากผิว

5.2 การเตรียมแว็กซ์ เทแว็กซ์ลงในหม้ออุ่นแว็กซ์ เปิดความร้อนไปที่สูงสุดและรอจนแว็กซ์ละลายเป็นเหลวทั้งหมด แล้วจึงลดอุณหภูมิไปจนระดับกลางและทำการพักไว้ที่อุณหภูมิระดับนี้ ประมาณ 5 นาที แว็กซ์จะเหลวข้นเหมือนคาราเมล

5.3 ลงมือแว็กซ์

หากเป็นแว็กซ์ Premium Pearls ที่สามารถใช้ได้ทั้งขนเส้นหนา และขนเส้นบาง ให้ทาแว็กซ์ตามเส้นแนวขนในระดับปริมาณบางๆ เนื่องจากเนื้อแว็กซ์มีความหนืดและแห้งชา รอสักครู่จนแว็กซ์แห้งดีแล้วจึงดึงย้อนแนวเส้นขน หากทาแว็กซ์บางเกินไปให้ใช้ไม้แว็กซ์ในการช่วยดึง ระมัดระวังไม่ควรใช้บริเวณจุดซ้อนเร้นหากยังไม่ชำนาญ

หากเป็นแว็กซ์ Soft Touch ที่เหมาะกับบริเวณที่มีขนเส้นหนา สามารถทาแว็กซ์ตามเส้นแนวขนในระดับหนาได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษที่แห้งไว รอเพียงแค่ 15 – 20 วินาทีก็สามารถดึงแว็กซ์ออกได้

5.4 การดูแลหลังการแว็กซ์ ควรทำความสะอาดคราบแว็กซ์ที่หลงเหลืออยู่ด้วยน้ำมัน หรือเซรั่ม นวดเบาๆเพื่อบรรเทาความเจ็บจากการดึงแว็กซ์ และช่วยถนอมผิวไปด้วยในคราวเดียวกัน ขอแนะนำ เซรั่มอเนกประสงค์ จาก Verna ที่ช่วยประโลมผิวหลังการแว็กซ์ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีที่ใช้ และป้องกันการเกิดขนคุด

6. ทำความสะอาดคราบแว็กซ์ที่ติดอยู่บนผิวอย่างไร 

หากมีคราบแว็กซ์คิดอยู่บนผิวหลังจากการดึงแว็กซ์ออก ให้ใช้ออยล์ทาลงไปบนผิวบริเวณที่มีคราบแว็กซ์ จากนั้นให้นวดและดึงคราบแว็กซ์ออก เมื่อแว็กซ์โดนความมันจากออยล์แล้ว จะทำให้แว็กซ์หลุดง่ายขึ้น

7. ทำไมแว็กซ์แล้วขนหลุดออกไม่หมด 

เกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ 

1. ทิศทางการดึงแว็กซ์

ในการแว็กซ์ต้องทาแว็กซ์ตามแนวขนและดึงย้อนแนวขน 

2. เส้นขนสั้นเกินไป 

เส้นขนควรมีความยาวอย่างน้อย 6-8 มิลลิเมตร เพื่อให้แว็กซ์สามารถจับเส้นขนได้

8. ข้อห้ามและการดูแล ทั้งก่อน-หลังแว็กซ์ 

ข้อควรรู้ก่อนแว็กซ์ (Things to know before waxing )

1. หากขนยาวเกินไป ควรเล็มให้สั้นลง โดยควรยาวอย่างน้อย 6 มิล

2.ห้ามใช้กับผิวที่มีการอักเสบ บวม แดง 

3.ก่อนและหลังแว็กซ์ 2-3 วัน ควรหยุดใช้ครีมทาผิวที่มีคณสมบัติเป็นกรด 

4.แว็กซ์สูตร Soft touch (คาโมไมล์ – กุหลาบ) สามารถผสมกันได้ แต่ห้ามผสมกับแว็กซ์สูตรพรีเมี่ยม (มุก)  

5.ควรบำรุงผิวทั้งก่อนและหลังแว็กซ์ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น 

9. ขั้นตอนการเตรียมผิว (Skin Preparation Process)

1. สำรวจผิวว่าไม่มีอาการอักเสบ และให้แน่ใจว่าก่อนแว็กซ์ 2-3 วัน ไม่ได้ใช้ครีมทาผิวที่เป็นกรด

2. ทา Multipurpose Pre- Waxing Oil จาก Verna จากนั้นให้ใช้ทิชชู่ซับความมันส่วนเกินออก

10. เทคนิคและขั้นตอนการแว็กซ์(Waxing Techniques)

1.เทแว็กซ์ลงในหม้ออุ่นแว็กซ์ เปิดความร้อนให้สุดและอุ่นจนละลาย

2.เมื่อแว็กซ์ละลายจนเหลว ให้ผ่อนระดับอุณหภูมิของหม้อไปที่ระดับกลาง (45-55c) และรอประมาณ 5 นาที จนให้เนื้อแว็กซ์หนืดเหมือนคาราเมล เพราะจะได้อุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งถ้าใช้ไม้ตักขึ้นมาแล้วหยดง่ายแสดงว่าร้อนเกินไป

ทดสอบอาการแพ้ โดยการนำแว็กซ์มาลองทาที่ข้อมือก่อนนำมาแว็กซ์จริง

3.เช็คทิศทางของเส้นขน หากเส้นขนชี้ไปทางไหนให้ทาตามทางนั้น (ทาตามแนวขน) และตอนดึงให้ดึงสวนทางกับทิศทางของเส้นขน

4.เมื่อแว็กซ์แห้งแล้วประมาณ 80% ให้ดึงแว็กซ์ในทิศทางตรงข้ามกับแนวเส้นขน
ขณะเดียวกันให้ใช้มืออีกข้างจับผิวบริเวณที่จะดึงไว้ให้ตึง เพื่อไม่ให้เคลื่อนที่ไปตามแรงดึง

5.แต่ละจุด (รักแร้,แขน,ขา และ บิกินี่) จะมีเทคนิคแตกต่างกัน ควรสอบถามเพิ่มเติม***

11. ขั้นตอนการดูแลหลังแว็กซ์ (Post Waxing Care)

1. หากมีคราบแว็กซ์หลงเหลืออยู่ สามารถใช้ Multipurpose Pre-Waxing Oil จาก Verna ทาบริเวณที่มีคราบแว็กซ์ และค่อยๆนวดผิว แว็กซ์จะหลุดออกได้อย่างง่ายดาย 

2. ให้ใช้ Multipurpose Post-Waxing Serum ที่มีสารสกัดจากว่านหางจรเข้ ดอกคาโมไมล์ และสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆที่ช่วยปลอบประโลมผิวที่ผ่านการแว็กซ์ ลดรอยแดง และบำรุงให้ชุ่มชื้นมากขึ้น

หลังจากการแว็กซ์ 1-3 วัน คุณควรดูแลผิวเป็นพิเศษ โดยมีข้อแนะนำดังนี้

1. ห้ามสครับผิว

2. ห้ามโดนน้ำทะเล

3. ห้ามอาบแดด

4. ห้ามใช้สกินแคร์ที่เป็นกรด (ครีมทาผิวขาวต่างๆ)

12. ทำความสะอาดหม้ออุ่นแว็กซ์ยังไง 

การทำความสะอาดหม้อ สามารถปล่อยแว็กซ์ทิ้งไว้ให้แห้งคาหม้อได้เลยนะคะ เวลาจะใช้ให้นำกลับมาอุ่นใหม่ ส่วนถ้าใครต้องการเปลี่ยนไปใช้แว็กซ์สูตรอื่นๆ ถ้าหากมีแว็กซ์เก่าเหลือในหม้อ ให้จับหม้อตะแคงให้แว็กซ์กองรวมกันและคาไม้ไว้ จากนั้นให้แว็กซ์เกาะตัวเป็นก้อนเหมือนแท่งไอติม ทิ้งให้แข็ง พอแว็กซ์แข็งตัว แว็กซ์จะดึงออกจากหม้อไม่ได้ ต้องหลอมแว็กซ์อีกรอบ แต่แค่ให้ตรงก้นร่อนออกเฉยๆทีนี้แว็กซ์ในหม้อก็จะเหลือไม่เยอะแล้วค่ะ จากนั้นให้ใช้สำลีหรือผ้า ชุบออยล์ เช็ดหม้อ ปิดไฟอุ่นไว้ด้วยนะคะ ต้องทำตอนแว็กซ์ละลาย และเอาไม้ กดปลายผ้าแล้วกวาดๆให้ทั่วในหม้อ ถ้าใช้มือจะร้อนค่ะ

13. เคล็ดลับการแว็กซ์ (Tips for applying wax)

1.เวลาทาให้ทิ้งตรงบริเวณปลายที่จะจับดึงไว้หนานิดหน่อย เพราะเวลาเราจะออกแรงดึงขึ้นจะได้ง่ายๆ

2.บริเวณปลายที่จะดึงขึ้น ควรเป็นตรงบริเวณที่ไม่มีเส้นขน เพราะเวลาดึงแว็กซ์จะได้ไม่เกี่ยวกับขนบริเวณตรงนั้น (ไม่งั้นจะเจ็บ)

3.ไม่ควรทาครั้งเดียวยาวๆ (เต็มแขน-เต็มขา)เพราะเมื่อออกแรงดึง ตรงปลายของแว็กซ์จะไม่มีแรงดึงขน ขนจะขาดระหว่างเส้น แทนที่จะหลุดออกจากราก

4. อุณหภูมิห้องมีผลต่อการแว็กซ์ โดยแว็กซ์จะแห้งเร็วขึ้นเมื่ออยู่ในห้องที่เย็นและจะแห้งช้าเมื่ออยู่ในห้องที่ร้อน อย่างไรก็ตามอย่าให้มีเหงื่อออกขณะแว็กซ์เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกำจัดขน